นักโภชนาการ และนักวิชาการหลายท่าน มักจะส่งเสริมให้เราได้รับวิตามิน และสารอาหารที่ครบถ้วนจากอาหารที่เรากินทุกวันมากกว่าการกินอาหารเสริม เพราะอะไรที่น้อยเกินไป หรือมากเกินไป ก็ไม่ส่งผลดีดับร่างกายแน่นอน แมวก็เหมือนกันค่ะ การให้อาหารปรุงเองที่บ้าน ก็อาจทำให้เจ้าเหมียวขาดสมดุลทางโภชนาการ และป่วยได้ง่ายกว่าแมวที่กินแต่อาหารที่มีความสมดุลของเกลือแร่ และวิตามินมาตลอด
1. เลือกอาหารให้เหมาะสมกับช่วงอายุ เพราะแมวในแต่ละช่วงอายุ ต้องการปริมาณสารอาหารที่แตกต่างกัน ปัจจุบันอาหารสำเร็จรูปสำหรับน้องเหมียว ได้มีการแบ่งเป็นประเภทอาหารในแต่ละช่วงอายุเรียบร้อยแล้วค่ะ โดยจะแบ่งเป็น อาหารสำหรับลูกแมว แมวโต แมวตั้งท้องและนมลูก และแมวแก่
2. ปัจจุบันอาหารเม็ดได้รับความนิยมสูงกว่าอาหารชนิดเปียก เนื่องจากพฤติกรรมการเลี้ยง ที่เจ้าของแมวส่วนใหญ่จะทำงาน และต้องตั้งอาหารไว้ให้กินตลอดเวลา ดังนั้นการให้อาหารเปียก หรืออาหารกระป๋องจะเลียได้ง่ายกว่าอาหารเม็ด
3. ควรเลือกอาหารจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญควรพิจาณาสูตรอาหารให้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
4. ทั้งนี้แม้อาหารจะผลิตตามมาตรฐานของ AAFCO แล้วก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพิจารณาร่วมด้วยก็คือ รายการของส่วนประกอบ เพราะผู้ผลิตบางราย อาจเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่มีคุณภาพที่ดี เช่น ใช้วัตถุดิบแหล่งโปรตีนมาจากเนื้อล้วน หรือมากจาก by product ซึ่งได้นำเนื้อไปทำอย่างอื่นแล้ว ซึ่งโปรตีนก็จะแตกต่างกัน
5. นอกจากนี้ควรคำนึงถึงผลระยะยาวด้วยค่ะ ว่าการใช้อาหารไปนานๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพของแมวอย่างแน่นอน เช่นการก้อให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นหากอาหารมีงานวิจัยรองรับการกินได้อย่างปลอดภัย ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของน้องเหมียวมาก ๆ เลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น